สารเสริมประสิทธิภาพ สัตว์และพืช "ซุปเปอร์ไบโอติกส์" ตรา เพื่อนเกษตร คือสารเสริมชีวภาพที่ประกอบไปด้วย..แร่ธาตุธรรมชาติจากแหล่งที่ดีที่สุดติดอันดับโลก และจุลินทรีย์ที่คัดแยกสายพันธุ์จากธรรมชาติ ไม่ตัดแต่งพันธุกรรม รับรองอินทรีย์ 100% ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์กลุ่มต่างๆ ดังนี้

       1.กลุ่ม Nitrogen Fixing Becteria ทำหน้าที่ ตรึงไนโตรเจนจากอากาศ

       2.กลุ่ม Phosphate Solubilizing Becteria ทำหน้าที่ละะลายฟอสฟอรัส

       3.กลุ่ม Potassium Solubilizing ทำหน้าที่ละลายโปแตสเซียม

       4.กลุ่มPhotosynthetic Becteria ทำหน้าที่สังเคราะห์แสง

       5.กลุ่ม Bacillus,Lactic Acid Bacteria ทำหน้าที่ปรับสมดุลระบบดูดซึมและย่อยอาหาร

       6.กลุ่ม Yeast Saccharomyces cerevisiae ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มไรแดง โรติเฟอร์ และอาร์ทีเมีย

       7.กลุ่ม Amino Acid ทำหน้าที่ กระตุ้นการทำงานของระบบเมตาโบลิซึ่ม

       8.ไคโตซาน ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโต และป้องกันโรคทั้งในสัตว์และพืช

       9.สาหร่ายทะเล อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดแดง เสริมสร้างกล้ามเนื้อในสัตว์ ขจัดสารพิษ, โลหะหนัก

     10.สารสกัดจากฮอร์โมนพืช ดูแลการเจริญเติบโต การงอกของเมล็ด การแตกกิ่งและใบ  

การออกดอก การแตกหน่อ การสร้างราก ลดสภาวะเครียด 

     11.เสริมแร่ธาตุที่มีประสิทธิภาพสูงจากแหล่งธรรมชาติที่ดีที่สุดในหลายประเทศ 

 

 

 

 

 

คุณสมบัติ :

        เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่คัดแยกสายพันธุ์จากธรรมชาติ ผ่านขบวนการเพาะเลี้ยงที่ทันสมัย เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด โดยรวมเอาแร่ธาตุสำคัญ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ต่อต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย อีกทั้งยังสามารถปรับปรุงดิน เพิ่มธาตุอาหาร และปรับสมดุลของระบบนิเวศน์ สกัดเป็นสารเสริมประสิทธิภาพ ใช้ได้ทั้งสัตว์และพืช

        ซุปเปอร์ไบโอติกส์ ตราเพื่อนเกษตร รับรองอินทรีย์ 100% สามารถใช้ได้ทั้งแบบผง หรือนำผงผสมทำ

น้ำหมักจุลินทรีย์ชนิดเข้มข้น โดยใช้เวลาในการหมักเพียง 12 - 24 ชั่วโมง ไม่มีกลิ่นเหม็นรุนแรงเหมือนน้ำหมักทั่วไป สะดวกในการใช้งาน และการขนส่ง ราคาไม่แพง ปลอดจากเชื้อโรคปนเปื้อน ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสถาบันตรวจสอบคุณภาพของมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย สามารถสร้างสารปฏิชีวนะทำลายเชื้อโรคของระบบทางเดินอาหาร เพิ่มประสิทธิภาพระบบการดูดซึม ช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ ไขมันและสิ่งปฏิกูลในท่อน้ำทิ้ง  บ่อบำบัดน้ำเสีย บ่อขยะ บ่อเลี้ยงหรือโรงตากมูลสัตว์ กำจัดกลิ่นเหม็นรบกวนจากก๊าซมีเทน ก๊าซไข่เน่า ก๊าซแอมโมเนีย ช่วยลดค่า BOD ปรับค่า PH แก้ปัญหากลิ่นจากมูลสัตว์จากน้ำเสีย กลิ่นเหม็นย้อนกลับจากท่อระบายน้ำและถังบำบัด สามารถใช้ได้ดีแม้ไม่มีระบบออกซิเจน ทนต่อความเค็มและความเป็นกรด-ด่าง เหมาะสำหรับฟาร์มปศุสัตว์ บ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน อพาร์ทเม้นต์ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม  บ่อบำบัดขยะ ตลาดสด แพปลา เทศบาล อบต. เพื่อใช้ในการควบคุมมลภาวะจากน้ำและอากาศ รวมถึงปัญหาที่รบกวนแก่ผู้อยู่อาศัยในชุมชน ทำลายเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของโรคทางเดินอาหารที่อาจปนเปื้อนก่อนปล่อยน้ำออกสู่ลำรางสาธารณะ  

*เก็บไว้ได้นาน 2 ปี โดยยังมีประสิทธิภาพดีครบถ้วน

 

 ประโยชน์ของจุลินทรีย์ 

 

ด้านการเกษตร 

        ใช้เพื่อผลิตปุ๋ยหรืออาหารเสริมให้แก่พืช  เนื่องจากผลิตภัณฑ์ ซุปเปอร์ไบโอติกส์ ตราเพื่อนเกษตร

เป็นนวัตกรรมที่สามารถรวมกลุ่มจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อสัตว์และพืช รวมถึงแร่ธาตุจากธรรมชาติ สามารถใช้ปรับปรุงดิน เพิ่มธาตุอาหาร ชะลอการละลายของปุ๋ย ช่วยดูดซึมและสังเคราะห์แสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นำไปใช้ปรับสภาพดิน ใส่บ่อเลี้ยง ล้างคอกสัตว์ หรือฉีดพ่นบำรุงพืชทางใบได้ตามต้องการ  นอกจากนี้ สารซุปเปอร์ไบโอติกส์ ช่วยป้องกันเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค เช่นเชื้อรา เชื้อไวรัส ให้เติบโตได้ช้าลง ช่วยเร่งการเจริญเติบโตและแตกยอดอ่อนให้แก่พืช ลดการหลุดร่วงของดอก ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น เพิ่มน้ำหนักและรสชาติดี

 

ด้านการปศุสัตว์

        ใช้ผสมอาหารเลี้ยงสัตว์เป็นสารโปรไบโอติกส์ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานป้องกันโรค และรักษาแผลอักเสบ ควบคุมเชื้อไม่ให้แพร่ขยาย ช่วยในการดูดซึม ระบบทางเดินอาหาร ปรับสมดุลระบบขับถ่าย ทำลายระบบการแพร่ขยายของหนอนแมลงวัน อัตราแลกเนี้อสูง ลดคาว เพิ่มสีสดของไข่และเนี้อ แข็งแรงโตไว เพิ่มความต้านทานโรคของสัตว์อนุบาล ย่นระยะเวลาการเลี้ยง ประหยัดค่าอาหาร ลดเครียด ลดอัตราการตาย เร่งการเจริญเติบโต สุขภาพดี กินน้อย นอนนาน ดับกลิ่นมูลสัตว์หรือกลิ่นสิ่งปฏิกูลภายในฟาร์ม ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมภายในฟาร์มให้ปลอดโรคมากยิ่งขึ้น 

 

ด้านการประมง

        ช่วยบำบัดน้ำในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อาทิ บ่อเลี้ยงกุ้ง ปลา เต่า ตะพาบ กบ ให้มีสภาพเหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยง ช่วยรักษาระดับ pH ของน้ำให้คงที่ ดักจับไขมันและย่อยสลายของเสียที่มาจากอาหารของสัตว์น้ำ

ขจัดตะกอน เพิ่มแพลงตอนและไรแดง มีโปรตีนสูงจากสาหร่ายทะเลและไคโตซาน เพิ่มคอลลาเจนให้สัตว์น้ำ

เสริมเกล็ดปลาและเปลือกกุ้ง เพิ่มประสิทธิภาพการขยายพันธุ์ ช่วยควบคุมเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคไม่ให้แพร่ขยายและมีผลต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง

 

ด้านการบำบัดกลิ่น

        ใช้กำจัดกลิ่นเหม็นจาก ห้องน้ำ บ่อน้ำทิ้ง ถังบำบัด และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ช่วยแก้ปัญหาการอุดตันในท่อน้ำทิ้ง และกลิ่นย้อนจากท่อระบายน้ำทิ้ง ใช้เพิ่มปริมาณเชื้อในถังบำบัดเพื่อให้ถังบำบัดมีประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

 

ด้านการจัดการขยะ

         ช่วยเร่งการย่อยสลายสารอินทรีย์จากขยะให้กลายเป็นปุ๋ย เพื่อนำไปใช้ในด้านการเกษตร ช่วยบำบัดกลิ่นจากขยะไม่ให้เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะกับงานสาธารณสุข  และสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วน

ท้องถิ่น ได้แก่ อบจ. อบต. เทศบาลท้องถิ่น

 

 

ด้านสิ่งแวดล้อม

         ช่วยบำบัดกลิ่นเน่าเสียจากแหล่งน้ำทิ้ง ลำรางระบายน้ำ ตลาดสด เทศบาลต่างๆ ช่วยปรับปรุงน้ำเสียตามแหล่งคู คลอง ให้คืนสู่สภาพที่ดีขึ้น ช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมตามโรงเรียน โรงแรม โรงพยาบาล วัด ตลาดสด ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ที่อยู่ใกล้ชุมชน  รวมทั้งบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ให้มีสุขลักษณะและอนามัยที่ดีขึ้น  

 

 

 

วิธีการใช้สารเสริมประสิทธิภาพ สัตว์และพืช "ซุปเปอร์ไบโอติกส์"

          -ใช้ผสมอาหารสัตว์ ใช้สาร 3 ช้อนแกง ( 30 กรัม ) ต่ออาหาร 10 กิโลกรัม หรือผสมน้ำกิน 20 ลิตร

 

          -ใช้สาร 500 กรัม - 1 กิโลกรัม หมักปุ๋ยคอก 1 - 2 ตัน หรือผสมน้ำ 200 ลิตร ใส่ลงบ่อเลี้ยงขนาด 1 ไร่ 

 

          -สำหรับพืช ใช้สาร 100-300 กรัม คลุกเคล้าปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมี กระสอบ 50 กิโลกรัม 

ใช้ได้ 2 - 4 ไร่  ควรใช้ตามระยะที่เหมาะสม สามารถลดต้นทุน ย่นระยะเวลา บำบัดน้ำ ดับกลิ่น ลดการใช้ปุ๋ย ประหยัดค่ายา ค่าอาหารได้มากกว่า30%ต่อการเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ทุกประเภท

 

          -ใช้ผสมกับเศษซากอินทรีย์วัตถุ เพื่อผลิตเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ โดยทำการหมักแบบไม่ต้องกลับกองปุ๋ย

อัตราส่วน สารซุปเปอร์ไบโอติกส์ 500 กรัม - 1 กิโลกรัม ต่อปริมาณอินทรีย์วัตถุ 1 - 2 ตัน ( 1,000 - 2,000 กิโลกรัม ) หมักเป็นระยะเวลา 7 - 15 วัน หรือใช้สาร 200 กรัม ผสมน้ำ 200 ลิตร ราดรดบนกองมูลสัตว์ เศษปลา เศษวัชพืชผักผลไม้ ทุกเดือนติดต่อกัน 4 - 5 เดือน

 

          -ใช้เพิ่มประสิทธิภาพของบ่อบำบัดของเสีย ถังดักสิ่งปฏิกูลภายในบ้าน แก้ปัญหากลิ่นเหม็นจากมูลในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ บ่อน้ำเสียที่ส่งกลิ่นเน่าเหม็น รบกวนชุมชนรอบข้าง ท่อระบายน้ำทิ้งภายในโรงงาน ฟาร์ม ตลาดสด

หรือกองขยะ โดยใช้โรยกลบหรือผสมน้ำฉีดล้างให้ทั่วพื้น อัตราการใช้ 300 กรัม ต่อ น้ำ 200 ลิตร

 

 

          -ใช้เป็นสารเสริมประสิทธิภาพให้กับปุ๋ยหรืออาหารเสริมแก่พืช ใช้สารซุปเปอร์ไบโอติกส์ ผสมร่วมกับน้ำหมักจุลินทรีย์ชนิดเข้มข้น ใส่สาร 1 กิโลกรัม ผสมกากน้ำตาล 10 กิโลกรัม เพิ่มออกซิเจนและอาหารเลี้ยงเชื้อ เช่น น้ำตาลกลูโคส นมหรือ เศษปลา เศษผักหรือผลไม้ ใช้เวลา 48 ชั่วโมง จะได้หัวเชื้อจุลินทรีย์เข้มข้นชนิดพิเศษ

 

          -ใช้สารซุปเปอร์ไบโอติกส์ 4 - 5 ช้อนแกง ผสมปุ๋ยสูตร 16-16-16 ต่อปุ๋ยกระสอบ 50 กิโลกรัม ใช้ได้ 2-4 ไร่ หรือหมักกับสารชีวภาพ อาทิ สะเดา ใบยอ ใบยาสูบ เป็นต้น ใช้ฉีดพ่นทางใบ หรือหว่านให้ทั่วสัปดาห์ละครั้ง

เพื่อปรับชะลอเป็นปุ๋ยละลายช้า และป้องกันแมลงศัตรูพืชได้ดีมากยิ่งขึ้น

 

          -นำน้ำหมักจุลินทรีย์ที่หมักจากสารซุปเปอร์ไบโอติกส์ ฉีดพ่นโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เป็นละอองฝอยให้ทั่ว หรือใช้เครื่องพ่นแบบละอองในบรรยากาศ จะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นในอากาศ จากมูลสัตว์ เช่น วัว เป็ด ไก่ หมู แพะ ที่แพร่กระจายสู่ชุมชนให้ลดลง โดยเฉพาะการเลี้ยงไก่ระบบ EVAP 

 

 

โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

ลักษณะอาการที่เกิดจากเชื้อรา และการวินิจฉัยเชื้อราจัดว่าเป็นสาเหตุของโรคพืชที่สำคัญ ซึ่งมีมากกว่า 8,000 ชนิด ซึ่งบางชนิดสามารถทำให้พืชเกิดโรคได้เฉพาะบางส่วน เฉพาะชนิดพืช แต่เชื้อราบางชนิดก็สามารถทำให้พืชเกิดโรคได้โดยไม่จำกัดว่าเป็นส่วนใดหรือพืชชนิดใด ทำให้พืชเกิดอาการได้มากมายหลายแบบ เชื้อราสามารถเข้าทำลายพืชได้แทบทุกชนิด ทั้งที่อยู่ในแปลงปลูก และผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้ว สามารถปรับตัวให้มีชีวิตอยู่ในอากาศ ดิน และน้ำได้ ดังนั้น การวินิจฉัยโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราให้ ถูกต้องและชัดเจน จะส่งผลไปถึงการป้องกันกำจัดที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป

ที่พบทั่วไปกับพืชหลายชนิด ได้แก่โรคดังนี้

1. โรคเหี่ยว (wilt) พืชมีอาการเหี่ยวเฉาเห็นได้ชัดที่ใบหรือยอด เป็นอาการที่เกิดตามมาภายหลัง จากที่ระบบท่อน้ำ ท่ออาหารของราก และลำต้นพืชได้รับความเสียหายจากเชื้อสาเหตุของโรค ทำให้พืชได้รับ น้ำ อาหารไม่พอเพียง

2. โรคราสนิม (rust) พืชมีแผลขนาดเล็กเป็นสีแดงคล้ายสนิม บนใบ หรือลำต้น
3. โรคราน้ำค้างและราแป้งขาว ใบ ลำต้น และผล มีอาการแบบ chlorosis หรือ necrosis เป็นหย่อมๆ ปกติอาจปกคลุมด้วยเส้นใบ หรือส่วนขยายพันธุ์ของเชื้อ เช่น sporangium, conidium เป็นต้น

4. โรคเขม่าดำ (smut) พืชมีอาการที่ส่วนยอดของลำต้น ช่อดอก ฝัก ตา ทำให้เป็นปม ต้นแคระแกรน และพืชอาจตายได้หากเป็นในระยะต้นกล้า ภายในส่วนที่เป็นโรค จะพบสปอร์เป็นผงสีดำ ต่อมาเยื่อแตกปริ เห็นผงสปอร์หลุดออกมา

5. โรคแอนแทรกโนส เป็นโรคที่เกิดกับใบ ลำต้น และ/หรือ ผลมีลักษณะจุดขนาดเล็ก หรือใหญ่สีดำ แผลบุ๋มเล็กน้อย และขอบแผลนูน พืชที่เป็นโรคบางชนิด อาจเกิดที่กิ่งก้าน มีอาการแบบ die back

6. โรคโคนเน่าระดับดิน (damping-off) เป็นโรคที่เกิดกับกล้าพืชต่างๆ โดยเฉพาะผัก ไม้ดอก พืชไร่ต่างๆ ตรงโคนต้นระดับดินเน่า และเนื้อเยื่อพืชยุบตัวลง ทำให้คอด และพืชล้มตายในที่สุด
7. โรครากและโคนต้นเน่า (root and foot rot) พืชที่รากและโคนต้นเน่า เกิดได้กับพืชล้มลุกจนถึงพืชยืนต้น

 8.โรคใบไหม(โรคใบจุดตาเสือ)

เชื้อสาเหตุ : เกิดจากเชื้อรา Phythopthera colocasiae Rac

สาเหตุเกิดจากเชื้อรา Phythopthera colocasiae Rac. อาการบนใบเกิดจุดสีน้ำตาลฉ่ำน้ำขนาดหัวเข็มหมุดถึงขนาดเหรียญบาท ปรากฎเห็นชัดบนผิวใบ แผลขยายใหญ่ขึ้นเป็นวงๆ ต่อกัน ลักษณะพิเศษ คือ บริเวณขอบแผลมีหยดสีเหลืองข้น ซึ่งต่อมาแห้งเป็นเม็ดๆ เกาะอยู่เป็นวงๆ เมื่อบีบจะแตกเป็นผงละเอียด สีสนิม ในระยะที่รุนแรงแผลขยายติดต่อกัน และทำให้ใบม้วนพับเข้าและแห้งเหี่ยว หรืออาจเน่าเละถ้าอากาศชื้นมีฝนพรำ

อาการบนก้านใบ จะเกิดแผลฉ่ำน้ำยาวรี สีน้ำตาลอ่อน แผลขยายใหญ่ขึ้นเป็นวงๆ เช่นกัน ต่อมาจะเน่า แห้ง เป็นสีน้ำตาล มีหยดสีเหลืองข้นด้วย ทำให้ก้านต้านทานน้ำหนักใบไม่ได้จึงหักพับ มีผลทำให้ใบแห้ง พบมากในระยะโรครุนแรง และมีลมพัด อาการเป็นระยะนี้ทำให้ผลผลิตลดลง และเชื้อนี้อาจเข้าทำลายหัวเผือกด้วยทำให้หัวเผือกเน่าเสียหายได้

นอกจากนี้ยังมีเชื้อราก่อโรคอีกหลายขนิด เช่น

เชื้อราพิเทียม (โรคเน่าระดับดิน กล้ายุบ กล้าเน่า) 
เชื้อราฟิวซาเรียม (โรคเหี่ยว) 
เชื้อราสเคลอโรเทียม (โรคโคนเน่า เหี่ยว) 
เชื้อราไรซอคโทเนีย (โรคเน่าระดับดิน กล้ายุบ กล้าเน่า) 
เชื้อราคอลเรโตตริคัม (โรคใบจุด ใบไหม้ ผลเน่า แอนแทรคโนส ) 
เชื้อราโฟมอพซิส (โรคใบจุด ลำต้นไหม้ ) 
เชื้อราอัลเทอร์นาเรีย (โรคใบจุด ใบไหม้)